MVP คืออะไร
MVP คืออะไร โดย MVP นั้น ย่อมาจากคำว่า Mininum Viable Product เป็นกลยุทธ์ในธุรกิจที่มีประโยชน์มากมาย ซึ่งการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด ที่คำนวณ และลดความเสี่ยงสำหรับธุรกิจของคุณเป็นเรื่องง่าย
โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน การเงิน การจัดสรรทรัพยากรมนุษย์ และเวลา และความพยายามมาก ลองแยกมันออกเป็นสถานการณ์สมมติเหตุ และผลง่าย ๆ ดังนี้ เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น
- สาเหตุ : คุณใช้กลยุทธ์ MVP เพื่อรวบรวมความคิดเห็นอันมีค่าของลูกค้า
- ผลกระทบ : ลูกค้าพบว่า ผลิตภัณฑ์ของคุณมีประโยชน์จริง ๆ บริษัทของคุณมีรายได้เพียงพอจากการเปิดตัวสู่ตลาดของคุณ
หรืออธิบายอีกในหนึ่ง คือ MVP หรือ Mininum Viable Product เป็นผลิตภัณฑ์ขั้นต่ำ ที่ทำงานได้ หมายถึง เวอร์ชันที่ง่ายที่สุดของผลิตภัณฑ์ MVP จะออกสู่ตลาดก่อนกำหนด ซึ่งบริษัทมักจะทำเพื่อการรวบรวมความคิดเห็นของลูกค้า ให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะแสดงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
ซึ่งคำว่า MVP ได้รับการประกาศเกียรติคุณจาก Frank Robinson แต่ Eric Ries ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีหน้าที่กำหนดแนวทาง ของการเริ่มต้นแบบลีนในวงจรการผลิตนั่นเอง
โดย MVP ควรมีคุณสมบัติ หรือเงื่อนไขที่น้อยที่สุด และไม่ซับซ้อน แต่มีศักยภาพเพียงพอที่จะมีความได้เปรียบ ในการแข่งขันในตลาด และได้มีการเผยแพร่ในหมู่ผู้ซื้อ หรือกลุ่มเป้าหมาย จากนั้น MVP จะตอบ หรือถามคำถามบางอย่างแบบอัตโนมัติ เช่น
- พวกเขาจะใช้มันหรือไม่?
- พวกเขาต้องการเห็นการปรับปรุงอะไรบ้าง?
- ข้อเสียของมันคืออะไร?
- มีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่พวกเขาต้องการหรือไม่?
โดยการเปิดตัว MVP เป็นขั้นตอนสำคัญในด้านการตลาด จากข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า นักพัฒนาสามารถประสบความสำเร็จได้มากมาย เช่น
- ลดข้อผิดพลาด
- ไม่รวมคุณสมบัติที่ล้าสมัย
- เพิ่มฟังก์ชันอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้งาน เป็นต้น
ประเภทของ MVPs มีอะไรบ้าง
การเลือกแผน MVP สำหรับธุรกิจของคุณ มีความสำคัญพอ ๆ กันกับการสร้าง MVP เป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนเลือก คุณต้องเข้าใจถึงสองสิ่งนี้อย่างชัดเจน คือ เป้าหมายธุรกิจของคุณ และทรัพยากรที่มีอยู่นั้นเพียงพอ หรือมีจุดหมายปลายทางขนาดไหน
โดยคุณจะพบกับโมเดล MVP ที่หลากหลาย ตามแนวทางต่าง ๆ โดยจะเเบ่งเป็น 3 ระบบที่ดีที่สุด หรือสามารถก้าวถึงเป้าหมายที่ใกล้ที่สุด คือ
1. The Flintstone MVP หรือ The Wizard of Oz
โดย Flintstone MVP เป็นอีกแนวคิดหนึ่ง ที่ Eric Ries ได้รับความนิยม ซึ่งมีฟังก์ชันการทำงานหลักที่มีให้โดยวิธีการใช้งานแบบแมนนวล แต่ผู้ใช้จะรู้สึกราวกับว่า พวกเขาทำงานอัตโนมัติผ่าน AI เมื่อลูกค้ายืนยันการใช้งานของผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เสนอ นักพัฒนาสามารถดำเนินการจัดส่งได้จริง
2. The Single-Feature MVP
ชนิดของนี้รุ่น MVP คือ การออกกำลังกายในการปรับขยาย มันมอบฟังก์ชั่นหลักอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทกำหนดเป้าหมายลูกค้า เพื่อทดสอบคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุด นี้อาจนำไปสู่นวัตกรรมเพิ่มเติมตามความคิดเห็นของพวกเขา
3. The Concierge MVP
วิธีการของ Concierge จะมีความเกี่ยวข้องกับการสื่อสารโดยตรงกับลูกค้า ซึ่งการทำเช่นนี้ จะสามารถช่วยให้นักพัฒนา สามารถขยายฟังก์ชันการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้
ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลจริง สามารถเป็นผู้ดำเนินการสาธิตไม่เหมือนกับแนวทาง Flintstone ไม่มีระบบอัตโนมัตินั่นเอง
วัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์ขั้นต่ำที่ทำงานได้คืออะไร
1. การบริหารที่มีความเสี่ยง
ซึ่งวัตถุประสงค์ของ MVP คือ การรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า คุณไม่ต้องการออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ขาย ซึ่งการแสดงตัวอย่างให้ผู้ใช้ดูนั้น สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ หากการรับ MVP ของคุณไม่ดี หรือไม่มีประสิทธิภาพ คุณจะรู้ว่าไม่ควรลงทุนในทรัพยากรของคุณ
2. การจัดการคุณภาพ
การส่งคืนผลิตภัณฑ์ขั้นต่ำที่ใช้งานได้ ความรู้ที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่า เกี่ยวกับความต้องการเฉพาะของลูกค้า ซึ่งข้อเสนอแนะนี้ สามารถช่วยให้นักพัฒนาพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความเหมาะสม
คุณสามารถเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้เสมอ โดยพิจารณาจากข้อมูลของผู้ใช้ MVP ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าขั้นต่ำ สามารถช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงได้
3. การขายก่อนเปิดตัว
กลยุทธ์การตลาด MVP ช่วยให้บริษัทที่เข้าสู่ตลาด โดยมีงบประมาณสำรองเพียงเล็กน้อย สามารถสร้างรายได้บางส่วนได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นี่เป็นวิธีการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาทำธุรกิจด้วย
4. ส่งเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้า
5. ลดของเสีย
ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพขั้นต่ำช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากร การทำงานหนัก รายได้ และเวลาได้อีกด้วย
เครดิต https://up388.com/
เพิ่มเติมบทความ /